เรื่องย่อ
เรื่องราวความรักใน The Flowers of War
ดำเนินไปท่ามกลางเหตุการณ์ที่แม้จะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนักในดินแดนตะวันตก
แต่ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างสอนใจในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับผลกระทบที่ประชาชน
ได้รับในยุคสงคราม แม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในนานกิงเมื่อปี 1937
จะยังคงเต็มไปด้วยความขัดแย้งและอารมณ์จากทั้งฝั่งของจีนและญี่ปุ่น
มีสิ่งหนึ่งที่นักประวัติศาสตร์ต่างเห็นพ้องกันนั่นคือสภาพเมืองที่พังพินาศ
พลเมืองหลายแสนคนจากทุกช่วงอายุถูกฆ่าตายและผู้หญิงและเด็กหลายพันคนต้อง
ทุกข์ทรมานจากการโดนข่มขืนและกระทำทารุณ
แต่ใน The Flowers of War
จางอี้โหมวได้หันเหความสนใจจากสาเหตุและอคติหลายฝ่ายในสงคราม
ไปสู่วีรชนผู้ไร้คนเหลียวแลในเมืองแห่งนี้ กลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลัง
ผู้ยังคงใช้ชีวิต
มีความรักและช่วยเหลือกันและกันแม้กระทั่งในระหว่างที่พวกเขาถูกทำร้าย
เหตุสังหารหมู่นานกิงเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม ปี 1937
ในจุดเริ่มต้นของสิ่งที่กลายเป็นที่รู้จักในชื่อของสงครามจีน-ญี่ปุ่น
ซึ่งเป็นสงครามเอเชียที่รุนแรงที่สุดในศตวรรษที่ 20 ในตอนนั้น
จีนและญี่ปุ่นได้ทำสงครามแย่งชิงพื้นที่มานานหลายปี ก่อนที่ในฤดูร้อนปี
1937 ญี่ปุ่นจะได้เปิดฉากรุกรานเซี่ยงไฮ้อย่างเต็มกำลัง
กองทัพญี่ปุ่นได้เจอกับการต่อต้านอย่างหนักในเซี่ยงไฮ้
ทำให้กองกำลังของพวกเขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ทำให้ในตอนที่พวกเขาเคลื่อนพลเดินหน้าไปยังเมืองหลวงในนานกิงช่วงปลายฤดู
ใบไม้ร่วง บรรยากาศที่เข้าครอบงำเมืองแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยลางหายนะ
หกสัปดาห์ที่ตามมากลายเป็นที่รู้จักในชื่อของ “การย่ำยีนานกิง”
ตามรายงานการพบเห็นการรุมข่มขืน การสังหารพลเมืองและการฝังศพหมู่
ที่เกิดขึ้นทั่วทุกหัวระแหง ศัลยแพทย์ชาวอเมริกัน โรเบิร์ต โอ. วิลสัน
ผู้ซึ่งทำงานในนานกิงขณะนั้น
ได้สรุปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นในจดหมายที่เขาเขียนถึงครอบครัวเขาว่า
“การสังหารหมู่ชาวเมืองเป็นเรื่องน่าสะพรึงกลัว
ผมสามารถเขียนต่อไปได้เป็นหน้าๆ ถึงกรณีการข่มขืนและการกระทำทารุณ
อย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้น”
แต่แม้กระทั่งการใช้ชีวิตธรรมดาในนานกิงจะเป็นไปไม่ได้
ก็ยังมีวีรชนไร้นามมากมายที่ยืนหยัดเพื่อชาวเมือง
ท่ามกลางอุปสรรคที่ถาโถมเข้ามา ขณะที่ชาวเมืองพยายามหนี
ชาวตะวันตกกลุ่มหนึ่งที่ทำงานอยู่ที่นั่นในฐานะมิชชันนารี
นักธุรกิจและนักข่าวตัดสินใจอยู่ต่อเพื่อก่อตั้งค่ายผู้อพยพ
รวมทั้งได้บันทึกถึงความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้น
มิชชันนารีชาวอเมริกันคนหนึ่งที่ชื่อจอห์น มากี้
ได้มีส่วนร่วมในการเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อช่วยเหลือทหารและชาวจีนมากถึง
200,000 คนและเขายังได้แอบลักลอกนำภาพยนตร์ 16 ม.ม.
สิบสองม้วนของเหตุสังหารที่เกิดขึ้นไปยังโลกตะวันตก
ซึ่งเผยให้เห็นถึงความเลวร้ายที่เกิดขึ้น มีรายงานว่า ไมเนอร์ เซียร์ เบทส์
ชาวอเมริกันที่ทำงานเป็นอาจารย์ในนานกิง
ผู้ช่วยเหลือชาวเมืองที่ยากจนที่สุดจำนวนมากให้หนีไปยังที่ปลอดภัย
ได้กระชากทหารออกจากร่างของหญิงสาวที่กำลังจะถูกข่มขืนด้วยตัวเอง และมินนี
โวทริน มิชชันนารีชาวอเมริกันอีกคนหนึ่ง
ก็ได้เสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องนักเรียนหญิงหลายพันคนที่ตกอยู่ท่ามกลาง
อันตรายร้ายแรง
ในปี 1938 เมื่อค่ายอพยพนานกิงปิดตัวลง
มีการรายงานว่าการร่วมมือในท้องถิ่นระหว่างชาวตะวันตกและชาวเมืองสามารถช่วย
ชีวิตผู้คนที่อาจเสียชีวิตได้ถึง 300,000 ชีวิต ปัจจุบันในนานกิง
ภูมิประเทศเหล่านั้นได้ถูกเปลี่ยนแปลงจากโลกที่เราได้เห็นใน The Flowers of
War ไปแล้ว ในปี 2011 เมืองแห่งนี้กลายเป็นนครหลวงสมัยใหม่
ที่จังหวะชีวิตดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เมืองนี้มีประชากรมากถึง 5 ล้านคน
และเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองที่ให้ความสำคัญด้านนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และ
อุตสาหกรรมไฮเทค แต่ในท้องถนนที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คน
ที่ผลิบานจากซากปรักหักพังในปี 1937
ยังคงมีเงาอดีตที่ผันผ่านไปหลงเหลืออยู่
นั่นคือจิตวิญญาณของผู้ที่ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อรักษาอนาคตของเมือง
ของพวกเขาให้คงอยู่ต่อไป
Download: One2Up
part1
part2
part3
part4
part5
part6
part7
part8
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น